เบิร์นลีย์ vs ลิเวอร์พูล : พรีวิว พรีเมียร์ลีก, วัน+เวลาการแข่งขัน, ถ่ายทอดสด
ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2019
เวลาแข่งขัน 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน เบิร์นลีย์ vs ลิเวอร์พูล
สนาม เทิร์ฟ มัวร์
ถ่ายทอดสด True Premier Football HD
ความพร้อมทั้ง 2 ทีม เบิร์นลีย์
แดนนี ดริงค์วอเตอร์ ประเดิมสนามให้กับ เดอะคลาเร็ตส์ ในเกม คาราบาวคัพ ที่พวกเขาปราชัยต่อ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมี โจ ฮาร์ท เฝ้าเสาแต่คาดการณ์ว่าทั้ง 2 คนจะไม่ได้ลงเล่นในแมตช์ดวลกับ หงส์แดง อย่างแน่นอน
โยฮันน์ กุดมุนด์สสัน มีอาการบาดเจ็บที่น่องเล็กน้อยและไม่น่าจะสมบูรณ์พร้อมลงเล่นโดยมี อารอน เลนนอน กับ เจฟฟ์ เฮนดริค เป็นแคนดิเดทออกสตาร์ทแทนที่ นอกจากนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ ฌอน ไดช์ จะยังใช้ผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดเดิมจากเกมที่พวกเขาเสมอกับ วูล์ฟส เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-4-2
ผู้รักษาประตู โป๊ป
กองหลัง โลว์ตัน, ทาร์คอฟสกี้, มี, ปีเตอร์ส
กองกลาง เฮนดริค, คอร์ค, เวสต์วูด, แม็คนีล
กองหน้า บาร์นส, วูด
คาดการณ์ว่า โจ โกเมซ จะได้ลงสนามแทนที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งแบ็คขวาเพื่อรับมือกับลูกกลางอากาศของเจ้าบ้านเช่นเดียวกับ เจมส์ มิลเนอร์ ที่น่าจะออกสตาร์ทแทน จินี ไวนัลดุม เมื่อ เดอะคลาเร็ตส์ มีแดนกลางที่แข็งแกร่ง
หงส์แดง จะยังไร้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ กับ นาธาเนียล ไคลน์ ที่เจ็บหนักและหมดสิทธิ์ลงสนามอย่างแน่นอน โดยที่ เดยัน ลอฟเรน กับ นาบี เกอิต้า มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู อาเดรียน
กองหลัง โกเมซ, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน
กองกลาง มิลเนอร์, ฟาบินโญ, เฮนเดอร์สัน
กองหน้า ซาลาห์, ฟิร์มิโน, มาเน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เบิร์นลีย์ (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2)
29 สิงหาคม คาราบาวคัพ เบิร์นลีย์ 1 : 3 ซันเดอร์แลนด์ แพ้
25 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก วูล์ฟส 1 : 1 เบิร์นลีย์ เสมอ
17 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 2 : 1 เบิร์นลีย์ แพ้
10 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก เบิร์นลีย์ 3 : 0 เซาแธมป์ตัน ชนะ
3 สิงหาคม กระชับมิตร เบิร์นลีย์ 2 : 0 ปาร์มา ชนะ
ลิเวอร์พูล (ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1)
24 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3 : 1 อาร์เซนอล ชนะ
17 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก เซาแธมป์ตัน 1 : 2 ลิเวอร์พูล ชนะ
15 สิงหาคม ซูเปอร์คัพ ลิเวอร์พูล 3 : 2(1 : 1) เชลซี ชนะ
10 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4 : 1 นอริช ชนะ
4 สิงหาคม คอมมูนิตี้ชิลด์ ลิเวอร์พูล 1 : 2(1 : 1) แมนฯ ซิตี้ แพ้
เฮดทูเฮด (เบิร์นลีย์ ชนะ 0 เสมอ 1 ลิเวอร์พูล ชนะ 4)
10 มีนาคม 2019 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4 : 2 เบิร์นลีย์
6 ธันวาคม 2018 พรีเมียร์ลีก เบิร์นลีย์ 1 : 3 ลิเวอร์พูล
1 มกราคม 2018 พรีเมียร์ลีก เบิร์นลีย์ 1 : 2 ลิเวอร์พูล
16 กันยายน 2017 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 1 : 1 เบิร์นลีย์
13 มีนาคม 2017 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 2 : 1 เบิร์นลีย์
สถิติจาก OPTA ที่น่าสนใจ
เบิร์นลีย์ มีสถิติปราชัยต่อ ลิเวอร์พูล บนเวที พรีเมียร์ลีก 8 นัดจากทั้งหมด 10 เกมหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 8) โดยชัยชนะนัดเดียวของพวกเขาเกิดขึ้นในเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2016 หงส์แดง สามารถบุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับ เดอะคลาเร็ตส์ ที่ เทิร์ฟ มัวร์ ได้ 4 นัดจากทั้งหมด 5 เกมหลังสุด (ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1) โดยแมตช์ล่าสุดพวกเขาเก็บชัยชนะในเกมที่นี่ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลูกทีมของ ฌอน ไดช์ สามารถเก็บชัยชนะใน พรีเมียร์ลีก ได้เพียง 1 นัดจาก 7 เกมหลังสุดหลังจากที่พวกเขาชนะ 3 นัดติดต่อกันเมื่อเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 4) ทัพเร้ดแมชีน สามารถเข่นคู่แข่งลงได้ติดต่อกัน 12 นัดในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตุลาคม 1990 ภายใต้การคุมทึมของ เคนนี ดัลกลิช อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยชนะคู่แข่งได้ถึง 13 นัดติดต่อกันมาก่อนในประวัติศาสตร์ ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไร้พ่ายใน พรีเมียร์ลีก ติดต่อกัน 20 นัดจนถึงเวลานี้ (ชนะ 16 เสมอ 4 แพ้ 0) และเพิ่งจะพบกับความพ่ายแพ้แค่เพียง 1 นัดจาก 42 เกมหลังสุดในรายการนี้ (ชนะ 34 เสมอ 7 แพ้ 1) โดยเกมนัดกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นการปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ลิเวอร์พูล จะกลายเป็นทีมในลึกสูงสุดของ อังกฤษ ลำดับที่ 6 ที่สามารถคว้าชัยใน 4 เกมแรกของนัดเปิดฤดูกาลสำเร็จต่อจาก นิวคาสเซิล (1994/95 และ 1995/96), อาร์เซนอล (2003/04 และ 2004/05), เชลซี (2004/05 กับ 2005/06, 2009/2010 และ 2010/11) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2015/16 และ 2016/17) พลพรรคเร้ดแมชีน ไม่แพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ลงเล่นในเดือนสิงหาคม 10 นัดจนถึงเวลานี้โดยเป็นการคว้าชัย 8 นัดหลังสุดติดต่อกัน (เสมอ 2) อย่างไรก็ตามทีมสุดท้ายที่สามารเข่น หงส์แดง ในเดือนสิงหาคมลงได้ก็คือ เบิร์นลีย์ เมื่อปี 2016 มีเพียง เซร์คิโอ อเกวโร (16 ประตู) และ ซาดิโอ มาเน (15 ประตู) เท่านั้นที่ยิงใน พรีเมียร์ลีก ปี 2019 มากกว่า แอชลีย์ บาร์นส (13 ประตู) ประตูของ แอชลีย์ บาร์นส สัดส่วน 33 เปอร์เซ็นต์เป็นการยิงใส่ทีมบิ๊กซิกซ์ (12 จากทั้งหมด 36 ประตู) นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นแข้งบน พรีเมียร์ลีก เพียง 1 ใน 5 นอกจาก ซาดิโอ มาเน, กิลฟี ซิเกิร์ดสสัน, เจมี วาร์ดี้ และ จินี ไวนัลดุม ที่สามารซัลโวใส่บิ๊กซิกซ์ได้ทุกทีมนับตั้งแต่การเดบิวต์บนลีกสูงสุดเมื่อสิงหาคม 2014 โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ยิงใส่ เบิร์นลีย์ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งเกมเหย้าและเกมเยือนเป็นจำนวนทั้งหมด 3 ประตู และเจ้าตัวยังคงรออีกเพียง 1 ประตูเท่านั้นก็จะกลายเป็นแข้ง บราซิเลียน คนแรกที่ซัดใน พรีเมียร์ลีก ได้แตะหลัก 50 ประตู
อ่านต่อ >> https://www.lincelin.com/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%99-sbobet/
การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2019
เวลาแข่งขัน 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน เบิร์นลีย์ vs ลิเวอร์พูล
สนาม เทิร์ฟ มัวร์
ถ่ายทอดสด True Premier Football HD
ความพร้อมทั้ง 2 ทีม เบิร์นลีย์
แดนนี ดริงค์วอเตอร์ ประเดิมสนามให้กับ เดอะคลาเร็ตส์ ในเกม คาราบาวคัพ ที่พวกเขาปราชัยต่อ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมี โจ ฮาร์ท เฝ้าเสาแต่คาดการณ์ว่าทั้ง 2 คนจะไม่ได้ลงเล่นในแมตช์ดวลกับ หงส์แดง อย่างแน่นอน
โยฮันน์ กุดมุนด์สสัน มีอาการบาดเจ็บที่น่องเล็กน้อยและไม่น่าจะสมบูรณ์พร้อมลงเล่นโดยมี อารอน เลนนอน กับ เจฟฟ์ เฮนดริค เป็นแคนดิเดทออกสตาร์ทแทนที่ นอกจากนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ ฌอน ไดช์ จะยังใช้ผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดเดิมจากเกมที่พวกเขาเสมอกับ วูล์ฟส เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-4-2
ผู้รักษาประตู โป๊ป
กองหลัง โลว์ตัน, ทาร์คอฟสกี้, มี, ปีเตอร์ส
กองกลาง เฮนดริค, คอร์ค, เวสต์วูด, แม็คนีล
กองหน้า บาร์นส, วูด
คาดการณ์ว่า โจ โกเมซ จะได้ลงสนามแทนที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งแบ็คขวาเพื่อรับมือกับลูกกลางอากาศของเจ้าบ้านเช่นเดียวกับ เจมส์ มิลเนอร์ ที่น่าจะออกสตาร์ทแทน จินี ไวนัลดุม เมื่อ เดอะคลาเร็ตส์ มีแดนกลางที่แข็งแกร่ง
หงส์แดง จะยังไร้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ กับ นาธาเนียล ไคลน์ ที่เจ็บหนักและหมดสิทธิ์ลงสนามอย่างแน่นอน โดยที่ เดยัน ลอฟเรน กับ นาบี เกอิต้า มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
คาดการณ์ 11 ตัวจริง : 4-3-3
ผู้รักษาประตู อาเดรียน
กองหลัง โกเมซ, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน
กองกลาง มิลเนอร์, ฟาบินโญ, เฮนเดอร์สัน
กองหน้า ซาลาห์, ฟิร์มิโน, มาเน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เบิร์นลีย์ (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2)
29 สิงหาคม คาราบาวคัพ เบิร์นลีย์ 1 : 3 ซันเดอร์แลนด์ แพ้
25 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก วูล์ฟส 1 : 1 เบิร์นลีย์ เสมอ
17 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล 2 : 1 เบิร์นลีย์ แพ้
10 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก เบิร์นลีย์ 3 : 0 เซาแธมป์ตัน ชนะ
3 สิงหาคม กระชับมิตร เบิร์นลีย์ 2 : 0 ปาร์มา ชนะ
ลิเวอร์พูล (ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1)
24 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3 : 1 อาร์เซนอล ชนะ
17 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก เซาแธมป์ตัน 1 : 2 ลิเวอร์พูล ชนะ
15 สิงหาคม ซูเปอร์คัพ ลิเวอร์พูล 3 : 2(1 : 1) เชลซี ชนะ
10 สิงหาคม พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4 : 1 นอริช ชนะ
4 สิงหาคม คอมมูนิตี้ชิลด์ ลิเวอร์พูล 1 : 2(1 : 1) แมนฯ ซิตี้ แพ้
เฮดทูเฮด (เบิร์นลีย์ ชนะ 0 เสมอ 1 ลิเวอร์พูล ชนะ 4)
10 มีนาคม 2019 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4 : 2 เบิร์นลีย์
6 ธันวาคม 2018 พรีเมียร์ลีก เบิร์นลีย์ 1 : 3 ลิเวอร์พูล
1 มกราคม 2018 พรีเมียร์ลีก เบิร์นลีย์ 1 : 2 ลิเวอร์พูล
16 กันยายน 2017 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 1 : 1 เบิร์นลีย์
13 มีนาคม 2017 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 2 : 1 เบิร์นลีย์
สถิติจาก OPTA ที่น่าสนใจ
เบิร์นลีย์ มีสถิติปราชัยต่อ ลิเวอร์พูล บนเวที พรีเมียร์ลีก 8 นัดจากทั้งหมด 10 เกมหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 8) โดยชัยชนะนัดเดียวของพวกเขาเกิดขึ้นในเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2016 หงส์แดง สามารถบุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับ เดอะคลาเร็ตส์ ที่ เทิร์ฟ มัวร์ ได้ 4 นัดจากทั้งหมด 5 เกมหลังสุด (ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 1) โดยแมตช์ล่าสุดพวกเขาเก็บชัยชนะในเกมที่นี่ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลูกทีมของ ฌอน ไดช์ สามารถเก็บชัยชนะใน พรีเมียร์ลีก ได้เพียง 1 นัดจาก 7 เกมหลังสุดหลังจากที่พวกเขาชนะ 3 นัดติดต่อกันเมื่อเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 4) ทัพเร้ดแมชีน สามารถเข่นคู่แข่งลงได้ติดต่อกัน 12 นัดในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตุลาคม 1990 ภายใต้การคุมทึมของ เคนนี ดัลกลิช อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยชนะคู่แข่งได้ถึง 13 นัดติดต่อกันมาก่อนในประวัติศาสตร์ ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไร้พ่ายใน พรีเมียร์ลีก ติดต่อกัน 20 นัดจนถึงเวลานี้ (ชนะ 16 เสมอ 4 แพ้ 0) และเพิ่งจะพบกับความพ่ายแพ้แค่เพียง 1 นัดจาก 42 เกมหลังสุดในรายการนี้ (ชนะ 34 เสมอ 7 แพ้ 1) โดยเกมนัดกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นการปราชัยต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ลิเวอร์พูล จะกลายเป็นทีมในลึกสูงสุดของ อังกฤษ ลำดับที่ 6 ที่สามารถคว้าชัยใน 4 เกมแรกของนัดเปิดฤดูกาลสำเร็จต่อจาก นิวคาสเซิล (1994/95 และ 1995/96), อาร์เซนอล (2003/04 และ 2004/05), เชลซี (2004/05 กับ 2005/06, 2009/2010 และ 2010/11) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2015/16 และ 2016/17) พลพรรคเร้ดแมชีน ไม่แพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ลงเล่นในเดือนสิงหาคม 10 นัดจนถึงเวลานี้โดยเป็นการคว้าชัย 8 นัดหลังสุดติดต่อกัน (เสมอ 2) อย่างไรก็ตามทีมสุดท้ายที่สามารเข่น หงส์แดง ในเดือนสิงหาคมลงได้ก็คือ เบิร์นลีย์ เมื่อปี 2016 มีเพียง เซร์คิโอ อเกวโร (16 ประตู) และ ซาดิโอ มาเน (15 ประตู) เท่านั้นที่ยิงใน พรีเมียร์ลีก ปี 2019 มากกว่า แอชลีย์ บาร์นส (13 ประตู) ประตูของ แอชลีย์ บาร์นส สัดส่วน 33 เปอร์เซ็นต์เป็นการยิงใส่ทีมบิ๊กซิกซ์ (12 จากทั้งหมด 36 ประตู) นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นแข้งบน พรีเมียร์ลีก เพียง 1 ใน 5 นอกจาก ซาดิโอ มาเน, กิลฟี ซิเกิร์ดสสัน, เจมี วาร์ดี้ และ จินี ไวนัลดุม ที่สามารซัลโวใส่บิ๊กซิกซ์ได้ทุกทีมนับตั้งแต่การเดบิวต์บนลีกสูงสุดเมื่อสิงหาคม 2014 โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ยิงใส่ เบิร์นลีย์ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งเกมเหย้าและเกมเยือนเป็นจำนวนทั้งหมด 3 ประตู และเจ้าตัวยังคงรออีกเพียง 1 ประตูเท่านั้นก็จะกลายเป็นแข้ง บราซิเลียน คนแรกที่ซัดใน พรีเมียร์ลีก ได้แตะหลัก 50 ประตู
อ่านต่อ >> https://www.lincelin.com/%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%99-sbobet/
Comments
Post a Comment